แหล่งข่าวจากภาคอุตสาหกรรมคาดว่า กำลังการผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ของจีนจะอยู่ที่ 1.25-1.3 พันล้านตัน ในสิ้นปี 2024
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกลางเดือนสิงหาคม 2025 จีนได้มีกำลังการผลิตเหล็กพิกไอออน (pig iron) ใหม่ 5.43 ล้านตันต่อปี และกำลังการผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ใหม่ 2.75 ล้านตันต่อปี โดยเป็นการคาดการณ์ โดยอาศัยการปิดกิจการที่มีอยู่ตามการปิดโรงงานเหล็กพิกไอออน 5.62 ล้านนต่อปี และโรงงานผลิตเหล็กดิบ 1.44 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งเป็นการคำนวณโดย Platts โดยอ้างอิงจากการประกาศของบริษัท"
เนื่องจากการยอดขายบ้านใหม่และการเริ่มก่อสร้างใหม่ที่ซบเซา ส่งผลให้การบริโภคเหล็กในประเทศจีนลดลง จาก 1.048 พันล้านตัน ในปี 2020 เหลือเพียง 880 ล้านตัน ในปี 2024 ตามข้อมูลของ สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีน (China Iron & Steel Association)
ข้อมูลจาก Commodity Insights ระบุว่า ความต้องการสินค้ามีแนวโน้มที่จะลดลงอีก ในปี 2025 โดยคาดว่าจะลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว.
การลดกำลังการผลิตเหล็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา และไม่คิดว่าจะเห็นการลดลงของกำลังการผลิตเหล็ก ภายในปี 2025 นี้ แหล่งข่าวกล่าว
“ไม่เพียงแต่เป็นเพราะไม่มีกำลังการผลิตที่เรียกว่า ‘ล้าสมัย’ อีกต่อไปในอุตสาหกรรมเหล็ก หลังจากที่มีการแลกเปลี่ยนกำลังการผลิต (capacity swaps) มาหลายปี ซึ่งเริ่มต้น ในปี 2018 แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือตลาดงานของจีนก็อยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่แล้ว ดังนั้น หากมีการบังคับใช้การลดกำลังการผลิตในขณะนี้ ก็จะยิ่งทำให้การจ้างงานยากลำบากขึ้นเท่านั้น” แหล่งข่าวกล่าว